เจียวกู่หลานป่า จากยอดดอยอ่างขาง จังหวัดเชียงใหม่

รายละเอียดสรรพคุณของ เจียวกู่หลาน
เพื่อแพทย์ทางเลือก  (Komplimentaermedizin)
         เจียวกู่หลานเป็นพันธ์ไม้เลื้อยตระกูลฟักทอง มีถิ่นกำเนิดที่ประเทศจีน ญี่ปุ่น และประเทศไทย ในบางถิ่นที่มีผู้คนอายุยืน ปรากฏว่ามาจากการบริโภคเจียวกู่หลาน พันธ์ไม้ชนิดนี้จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “พันธ์ไม้เพื่อชีวิตอมตะ”   เจียวกู่หลาน เพิ่งถูกพิสูจน์ทางวิชาการเมื่อปี พ.ศ.2519 จากห้องทดลองโดยนักวิจัยชาวญี่ปุ่น ผลการวิจัยสรรพคุณทางการแพทย์ ทำให้มีผู้คนเป็นจำนวนมากหันมาบริโภค “พันธ์ไม้เพื่อชีวิตอมตะ” นี้ ในประเทศจีน  เรียกเจียวกู่หลานว่า “พันธ์ไม้เพื่อชีวิตอมตะ” (Xiancao)  หรือ “หญ้าวิเศษ” บางครั้งถูกเรียกว่า “หญ้ามหัสจรรย์”  หรือ  “โสมห้าใบ”  ฯลฯ เจียวกู่หลาน มีคุณสมบัติทางการแพทย์หลายประการที่คล้ายกับโสม  และยังมีสรรพคุณอีกหลายอย่างที่ไม่พบในโสม   เจียวกู่หลานถูกจัดอยู่ในประเภทAdaptogenen  (ข้อมูลจากวิกิเพเดีย)
เปรียบเทียบ เจียวกู่หลานที่ดีกว่า โสม 
         พืชสองพันธ์นี้ต่างกันมาก   แต่ก็ประกอบด้วยธาตุบางอย่างที่เหมือนกัน เจียวกู่หลานมีธาตุ saponiden  (บางครั้งเรียกชื่อว่าGypenoside) มาก  Gypenoside  มีโครงสร้างเหมือน  Panaxoiden ซึ่งเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Ginsenoide (ธาตุนี้มีอยู่ในโสมมาก)  เจียวกู่หลานมีธาตุ saponiden มากเป็นสี่เท่าของโสม บางส่วนของธาตุดังกล่าวก็แปลงเปลี่ยนเป็น Panaxoiden เจียวกู่หลาน  เริ่มเป็นที่รู้จักเมื่อทศวรรษที่  70   โดยนักวิจัยชาวญี่ปุ่น ที่พยายามหาสิ่งธรรมชาติที่ไม่ใช่สารเคมีที่จะมาทดแทนน้ำตาล แต่มีประสบความสำเร็จงานวิจัยนี้จึงเลิกล้มไป แต่นักวิจัยชาวญี่ปุ่นอีกท่านหนึ่งกลับพบว่าในเจียวกู่หลานมีธาตุที่มีคุณค่าอย่างสูง เช่นเดียวกับที่มีอยู่ในโสมและในศตวรรษที่ 70 นี้เอง  ในประเทศจีนก็มีการเล่าขานเรื่องเจียวกู่หลานอย่างมากในหมู่ประชาชน ในประเทศจีนตอนใต้ เช่น กวางสี และเสฉวน ที่ผู้คนที่อายุมากกว่า 100 ปี ไม่น้อย  ประชาชนในแถบนี้แถบจะไม่ป่วยเป็นโรคมะเร็งเลย  นักวิชาการพบว่าประชาชนในแถบนี้ดื่มชาจากใบเจียวกู่หลานเป็นประจำ
สรรพคุณด้านบำรุงสุขภาพ 
         คุณสมบัติที่น่าสนใจของเจียวกู่หลานคือ  ไม่ได้รักษาทางใดทางหนึ่งโดยเฉพาะ   แต่เป็นการปรับสภาพความสมดุลมากกว่า  ดังนั้น เจียวกู่หลานจึงรักษาได้ทั้งผู้มีความดันโลหิตสูง  และผู้มีความดันโลหิตต่ำ   ท่านสามารถจะดื่มชาจากใบเจียวกู่หลาน วันละ 3 ถ้วย หรือ 30 ถ้วยก็ได้  แล้วแต่ความชอบของแต่ละท่าน
คุณสมบัติในการปรับสภาพการทำงานของสมองและฮอร์โมน
         เจียวกู่หลานสามารถปรับความสมดุลการทำงานของสมอง   ทั้งเพื่อกระตุ้น  หรือเพื่อทำให้สงบผ่อนคลาย หลับสบาย   ช่วยให้เกิดความสมดุลของฮอร์โมนทั้งในชายและหญิง  ขจัดความเครียด 
คุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ
         เจียวกู่หลานมีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ อันเป็นสาเหตุของโรคมะเร็ง   อนุมูลอิสระ เป็นสาเหตุหนึ่งของความแก่ เจียวกู่หลานจึงช่วยชะลอความชราด้วยเช่นกัน
คุณสมบัติในการเพิ่มภูมิคุ้มกัน 
         ใน “ภาวะฉุกเฉิน”  ระบบความคุ้มกันจะตื่นตัว   การผลิต Lymphocyten,  Phocyten  และ Serum IGG จะช่วยปรับสมดุลของระบบความคุ้มกัน
คุณสมบัติในการปรับความสมดุลของความดันโลหิต
          แม้ยังไม่มีการวิจัยอย่างสมบูรณ์ในคุณสมบัติข้อนี้ แต่จากการศึกษามีการยืนยันในสองประการ คือ การทำงานของหัวใจจะดีขึ้น และ ทำให้เกิดการปลดปล่อยของ Nitritoxiden เข้าสู่ร่างกาย เจียวกู่หลานจึงสามารถป้องกันการเกิดเส้นเลือดแตกในสมอง และ การเกิดหัวใจวายเฉียบพลัน
คุณสมบัติในการช่วยระบบการย่อยอาหาร(Verdauung)
          เจียวกู่หลานช่วยระบบการย่อย   ช่วยผู้ต้องการลดน้ำหนัก  คือจะทำให้เกิดอาการคล้ายท้องเดินเล็กน้อยผู้ท้องผูกก็จะได้รับประโยชน์เช่นเดียวกัน   สำหรับผู้ที่ผอมเกินไป เจียวกู่หลานจะช่วยให้การดูดซึมสารอาหารดีขึ้น
คุณสมบัติในการทำให้ร่างกายแข็งแรงและมีความแข็งแกร่งขึ้น
          เจียวกู่หลานทำให้กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรงมีการสูบฉีดดีขึ้น  ร่างกายจึงแข็งแรงและแข็งแกร่งขึ้น และยัง มีนักกีฬาจีนไม่น้อยที่บริโภคพันธ์ไม้นี้
คุณสมบัติที่แจ้งในกล่องบรรจุชาจากใบเจียวกู่หลานได้แก่
           แก้อาการปวดศีรษะไมเกรน, ชะลอความชรา , ปรับระบบประจำเดือนให้ปรกติ

จากการที่ได้อ่านจากอินเตอร์เน็ต และทราบว่า

           มีคนค้าขายชาเจียวกู่หลานอยู่มากมายน่าวิตกว่าใบเจียวกู่หลานที่ปลูกในประเทศทางยุโรป อาจจะไม่มีผลดีเท่ากับเจียวกู่หลานที่เติบโตในประเทศไทยหรือที่ประเทศจีน อันเนื่องมาจากภูมิอากาศ  แสงอาทิตย์และความอบอุ่นน่าจะดีสำหรับพันธ์ไม้นี้มากกว่าความหนาวเย็นที่ประเทศทางยุโรป จริงอยู่ในเมื่อพืชนี้ทนความหนาวเย็นได้ถึง 18 องศาเซลเซียส  ก็น่าจะปลูกที่ประเทศเหล่านี้ได้    แต่เมื่อมีการขยายและแพร่พันธ์ต่อๆ ไปแล้ว ผลทางการรักษาอาจจะสู้ไม่ได้กับเจียวกู่หลานของถิ่นกำเนิดดั้งเดิม ถึงอย่างไรก็ตาม  เจียงกู่หลานนับเป็นพืชที่น่าสนใจ  ควรค่าแก่การทดลองบริโภคอย่างยิ่ง

เจียวกูหลานป่า      

เจียวกู่หลานจากเรือนเพาะชำ

เจียวกู่หลานป่าจะมีขนาดเล็กกว่าเจียวกู่หลานที่เลี้ยงในเรือนเพาะชำ   เพราะเป็นธรรมชาติ ไม่ได้รับปุ๋ยหรือสารฆ่าแมลง  ใบที่ร่วงลงดินจะกลายเป็นปุ๋ย เจียวกู่หลานป่าจะมีภูมิต้านแมลงและศัตรูพืชอยู่ในตัว  ต่างกับที่เลี้ยงในเรือนเพาะชำ   เจียวกู่หลานป่าจึงมีคุณสมบัติในการรักษาและบำรุงสุขภาพได้ดีกว่าเจียวกู่หลานจากเรือนเพาะชำ เจียวกู่หลานจากเรือนเพาะชำจะมีก้านใหญ่และมีใบงามกว่าเจียวกู่หลานป่า แต่จะมีผลในทางรักษาน้อยกว่า ทั้งนี้เพราะเจียวกู่หลานจากเรือนเพาะชำได้รับการถนุถนอมจากมือมนุษย์   (เช่นปุ๋ย   ฮอร์โมน  ย่าฆ่าแมลง) ไม่จำเป็นต้องผลิตสารภูมิต้านในตัวเอง    หากแต่จะผลิตน้ำตาล  เจียวกู่หลานจากเรือนเพาะชำจึงมีรสหวานกว่าเจียวกู่หลานป่า
แหล่งที่มาของผลิตภัณฑ์ของเรา
จากดอยอ่างขาง จังหวัดเชียงใหม่วึ่งไม่ห่างจาก โครงการในพระราชดำริดอยอ่างขาง  ลึกเข้าไปประมาณ 10 กิโลเมตร ติดเขตแดนพม่า เป็นแนวเทือกเขาหิมาลัย สูงจากระดับน้ำทะเล 1500 - 1600 เมตร  เป็นบริเวณที่สันนิษถานว่าเป็น  ดินจากภูเขาไฟเก่าที่มอดไปนานแล้วและกลายเป็นดิน  ที่อุดมไปด้วยธาตุและสารจากธรรมชาติ   มีความชื้นไม่มากเหมือนประเทศไทยตอนใต้   มีอากาศเย็นตลอดปี   เป็นผลให้เจียวกู่หลานป่า สามารถเติบโตได้เป็นอย่างดี  โดยไม่ต้องได้รับการถนุถนอมจากมือมนุษย์
ในภาคเหนือของประเทศไทย    ผู้คนชาวเขารับประทานเจียวกู่หลานที่ขึ้นตามธรรมชาติโดยเรียกว่า” หญ้าปักตอ “ เพื่อรักษาโรคต่างมาเป็นเวลานานแล้ว   ระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง  กองทัพญี่ปุ่นเดินผ่านและหยุดพักบริเวณภาคเหนือของประเทศไทย เพื่อเดินทางต่อไปยังประเทศพม่า   ทหารญี่ปุ่นทราบดีถึงสรรพคุณของเจียวกู่หลาน ที่นักวิจัยชาวญี่ปุ่นได้ค้นพบโดยบังเอิญว่าเจียวกู่หลานมีคุณสมบัติเหมือนโสม   แต่มีผลดีกว่าโสม กองทัพ ญี่ปุ่นต้องการใช้โสมเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับทหาร จึงนำเมล็ดพันธ์ของเจียวกู่หลานติดตัวมาด้วย เพื่อปลูกและรับประทานบำรุงกำลัง    เมื่อสงครามสิ้นสุดลงและญี่ปุ่นเป็นฝ่ายพ่ายแพ้สงครามทหารญี่ปุ่นได้พยายามทำลายต้นเจียวกู่หลาน  เพื่อปิดสรรพคุณในการรักษาไว้เป็นความลับ   แต่ไม่สำเร็จ  เจียวกู่หลานจากประเทศญี่ปุ่นกลับแพร่พันธ์ต่อไป  และผสมพันธ์กับเจียวกู่หลานป่าของประเทศไทยตอนเหนือ   นักวิจัยชาวญี่ปุ่นพบว่า พันธ์ผสมดังกล่าว มีผลทางการรักษาเข้มข้นขึ้นกว่าเดิมถึงกับพยายามนำพันธ์ผสมไปปลูกที่ประเทศญี่ปุ่นแต่กลับได้ผลน้อยลง อันมีสาเหตุจากสภาพดินฟ้าอากาศ      ถ้าจะเปรียบเทียบ   ก็เหมือนการนำพันธ์องุ่นจากประเทศฝรั่งเศสมาปลูกในประเทศไทย  คุณภาพย่อมเปลี่ยนไป   ฉันใดก็ฉันนั้น
ขบวนการทำผลิตภัณฑ์เจียวกู่หลานของเรา
ชาวบ้านจากสองหมู่บ้านแถบดอยอ่างขาง จะปลูกเจียวกู่หลานบริเวณรอบๆ หมู่บ้านและตามเส้นทาง ที่ชาวบ้านนานแล้วและกลายเป็นดิน  ออกมาเก็บผักหญ้าผลไม้ และไม้ฟืน เป็นประจำอยู่แล้ว   เมื่อต้นของเจียวกู่หลานเติบโตได้ที่  ชาวบ้านจะเก็บและนำไปผึ่งแดดให้แห้งสนิท เพื่อป้องเชื้อรา   จากนั้นจะทำการอบด้วยไฟอ่อนๆ   ในหม้อดิน ซึ่งเป็น  ความร้อนจะมาจากภายนอกเข้าสู่ภายใน ต่างจากการอบด้วยเตาอบไมโครเวฟ หรือเครื่องอบไฟฟ้าจะให้ความร้อนจากภายในสู่ภายนอกตามหลักวิทยาศาสตร์ซึ่งเป็นเหตุผลอันหนึ่งที่น่าเชื่อว่าเชื้อรามีโอกาสเกิดขึ้นได้เร็วกว่าวิธีการของเรา  วิธีการอบด้วยหม้อดินจะทำให้ไม่เกิดเชื้อราใด้ง่าย   จึงไม่จำเป็นต้องใช้สารกันเสียหรือสารป้องกันราเพิ่มเติม    ทำให้เจียวกู่หลานที่ผลิตโดยวิธีการดังกล่าว เก็บได้นานอย่างน้อย1 ปี จากนั้นจึงมีการตรวจสอบและคัดแยกอีกครั้งหนึ่ง
เรามีผลิตภัณฑ์เจียวกู่หลาน 2  แบบ                                                                                                                                                                             คือ  เป็นใบชา   ชาในซองพร้อมชง และ  แคปซูล ในสองแบบแรกจะมีใบชาเหลือ ซึ่งยังคงมีธาตุหรือสารที่ใช้ประโยชน์ได้อยู่  ในประเทศไทยผลิตภัณฑ์ในรูปแคปซูล  เป็นที่นิยมมากกว่าแบบอื่นๆ   เพราะจะใช้ประโยชน์ได้หมดทุกส่วนและช่วยระบบการย่อยด้วย แคปซูลที่ใช้บรรจุตัวยา ทำจากวัสดุธรรมชาติ คือ ข้าวเหนียว   ขวดบรรจุแคปซูลทำจากปลาสติกคุณภาพ ไม่มีปฏิกิริยาทางเคมีกับแคปซูล    ผลิตภัณฑ์ในรูปแคปซูลเหมาะสำหรับบุคคลที่เอาใจใส่เรื่องสุขภาพแต่มีเวลาไม่มาก

 แบบชงชาจีน50กรัมราคา180-บาท                                                                                        แบบบรรจุเม็ด100เม็ดราคา400-บาท

ผลิตภัณฑ์ของเรามิได้ผลิตในเชิงอุตสาหกรรม  แต่เป็นผลิตภัณฑ์ธรรมชาติโดยชาวบ้าน จึงไม่ได้ขายส่งเป็นจำนวนมาก หากแต่จะจัดส่งถึงบ้านให้แก่ผู้สั่งซื้อมาเป็นรายๆ ไป     

ผู้สนใจโปรดแจ้งความจำนงมาที่ www.aquarellreisen.com
EMAIL:    vinaiaq@gmail.com   ,    vinai@aquarellreisen.com
MOBILE:  081 8821476